Thứ Bảy, 8 tháng 10, 2011

Thức ăn hôi thối


Pāṇātipāto vadhachedabandhanaṃ,

Theyyaṃ musāvādo nikativañcanāni ca;
Ajjhenakuttaṃ paradārasevanā,
Esāmagandho na hi maṃsabhojanaṃ.
Sát sanh và hành hình,
Ðả thương và bắt trói,
Trộm cắp và nói láo,
Man trá và lừa đảo,
Giả bộ kẻ học thức,
Ði lại với vợ người,
Ðây là đồ ăn thối,
Ăn thịt không phải thối.
Ye idha kāmesu asaññatā janā,
Rasesu giddhā asucibhāvamassitā
Natthikadiṭṭhī visamā durannayā,
Esāmagandho na hi maṃsabhojanaṃ.
Ở đời, các hạng người,
Không chế ngự lòng dục,
Ðam mê các vị ngon,
Liên hệ đến bất tịnh,
Theo chủ nghĩa hư vô,
Bất chánh khó hướng dẫn,
Ðây là ăn đồ thối,
Ăn thịt không phải thối.
Ye lūkhasā dāruṇā piṭṭhimaṃsikā
Mittadduno nikkaruṇātimānino;
Adānasīlā na ca denti kassaci,
Esāmagandho na hi maṃsabhojanaṃ.
Ai thô bạo, dã man,
Sau lưng nói gièm pha,
Phản bạn không từ bi,
Lại cống cao ngạo mạn,
Tánh không có bố thí,
Không cho ai vật gì,
Ðây là ăn đồ thối,
Ăn thịt không phải thối,
Kodho mado thambho paccupaṭṭhāpanā
Māyā usūyā bhassasamussayo ca;
Mānātimāno ca asabbhi santhavo,
esāmagandho na hi maṃsabhojanaṃ.
     Phẫn nộ và kiêu mạn,
Cứng đầu và chống đối
Man trá và tật đố,
Nói vô ích, huênh hoang,
Kiêu mạn và quá mạn,
Thân mật với kẻ ác,
Ðây là ăn đồ thối,
Ăn thịt không phải thối,
Ye pāpasīlā iṇaghātasūcakā,
Vohārakūṭā idha pāṭirūpikā
Narādhamā yedha karonti kibbisaṃ,
Esāmagandho na hi maṃsabhojanaṃ.
Ác giới, nợ không trả,
Làm người điểm chỉ viên,
Làm những nghề dối trá,
Ở đây, kẻ giả vờ,
Ở đây người bần tiện,
Những người làm ác nghiệp,
Ðây là ăn đồ thối,
Ăn thịt không phải thối.
Ye idha pāṇesu asaññatā janā,
Paresamādāya vihesamuyyutā;
Dussīlaluddā pharusā anādarā,
Esāmagandho na hi maṃsabhojanaṃ.
Ở đời đối hữu tình,
Người không biết kiềm chế,
Lấy cướp sở hữu người,
Chú tâm làm hại người,
Ác giới và tàn nhẫn
Ác ngữ, thiếu lễ độ,
Ðây là ăn đồ thối,
Ăn thịt không phải thối,
Etesu giddhā viruddhātipātino,
Niccuyyutā pecca tamaṃ vajanti ye;
Patanti sattā nirayaṃ avaṃsirā,
Esāmagandho na hi maṃsabhojanaṃ.
Hạng tham ô, thù nghịch,
Tìm cách để giết hại,
Luôn luôn hướng về ác,
Sau chết sanh tối tăm,
Chúng sanh ấy rơi vào,
Ðịa ngục đầu xuống trước.
Ðây là ăn đồ thối,
Ăn thịt không phải thối.
(Tiểu bộ kinh 1. Kinh tập. Chương 2 - Tiểu Phẩm. Kinh hôi thối) 



ว่ากัสสป ข้าพระองค์ขอทูลถามความข้อนี้กะพระองค์ว่า

กลิ่นดิบของพระองค์มีประการอย่างไร ฯ
พระผู้มีพระภาคพระนามว่ากัสสปตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า
การฆ่าสัตว์ การทุบตี การตัด การจองจำ การลัก การพูด-
เท็จ การกระทำด้วยความหวัง การหลอกลวง การ
เรียนคัมภีร์ที่ไร้ประโยชน์ และการคบหาภรรยาผู้อื่น นี้
ชื่อว่ากลิ่นดิบ เนื้อและโภชนะไม่ชื่อว่ากลิ่นดิบเลย ชน
เหล่าใดในโลกนี้ ไม่สำรวมในกามทั้งหลาย ยินดีใน
รสทั้งหลาย เจือปนไปด้วยของไม่สะอาด มีความเห็น
ว่าทานที่บุคคลให้แล้วไม่มีผล มีการงานไม่เสมอ บุคคล
พึงแนะนำได้โดยยากนี้ ชื่อว่ากลิ่นดิบของชนเหล่านั้น เนื้อ
และโภชนะไม่ชื่อว่าเป็นกลิ่นดิบเลย ชนเหล่าใดผู้เศร้า-
หมอง หยาบช้า หน้าไหว้หลังหลอก ประทุษร้ายมิตร
ไม่มีความกรุณา มีมานะจัด มีปกติไม่ให้ และไม่ให้อะไรๆ
แก่ใครๆ นี้ชื่อว่ากลิ่นดิบของชนเหล่านั้น เนื้อและโภชนะ
ไม่ชื่อว่ากลิ่นดิบเลย ความโกรธ ความมัวเมา ความ
เป็นคนหัวดื้อ ความตั้งอยู่ผิด มายา ฤษยา ความยกตน
ความถือตัว ความดูหมิ่น และความสนิทสนมด้วยอสัต-
บุรุษทั้งหลาย นี้ชื่อว่ากลิ่นดิบ เนื้อและโภชนะไม่ชื่อ
ว่ากลิ่นดิบเลย ชนเหล่าใดในโลกนี้ มีปรกติประพฤติ
ลามก กู้หนี้มาแล้วไม่ใช้ พูดเสียดสี พูดโกง เป็นคน
เทียม เป็นคนต่ำทราม กระทำกรรมหยาบช้า นี้ชื่อว่า
กลิ่นดิบของชนเหล่านั้น เนื้อและโภชนะไม่ชื่อว่ากลิ่นดิบ
เลย ชนเหล่าใดในโลกนี้ ไม่สำรวมในสัตว์ทั้งหลาย ชักชวน
ผู้อื่นประกอบการเบียดเบียน ทุศีล ร้ายกาจ หยาบคาย
ไม่เอื้อเฟื้อ นี้ชื่อว่ากลิ่นดิบของชนเหล่านั้น เนื้อและ
โภชนะไม่ชื่อว่ากลิ่นดิบเลย สัตว์เหล่าใดกำหนัดแล้วใน
สัตว์เหล่านี้ โกรธเคือง ฆ่าสัตว์ ขวนขวายในอกุศลเป็น
นิตย์ ตายไปแล้วย่อมถึงที่มืด มีหัวลงตกไปสู่นรก นี้
ชื่อว่ากลิ่นดิบของชนเหล่านั้น เนื้อและโภชนะไม่ชื่อว่า
กลิ่นดิบเลย การไม่กินปลาและเนื้อ ความเป็นคน
ประพฤติเปลือย ความเป็นคนโล้น การเกล้าชฎา ความ
เป็นผู้หมักหมมด้วยธุลี การครองหนังเสือพร้อมทั้งเล็บ
การบำเรอไฟ หรือแม้ว่าความเศร้าหมองในกายที่เป็นไป
ด้วยความปรารถนา ความเป็นเทวดา การย่างกิเลสเป็นอัน
มากในโลก มนต์และการเซ่นสรวง ยัญและการซ่อง-
เสพฤดู ย่อมไม่ยังสัตว์ผู้ไม่ข้ามพ้นความสงสัยให้หมดจด
ได้ ผู้ใด คุ้มครองแล้วในอินทรีย์ทั้งหกเหล่านั้น รู้แจ้งอินทรีย์
แล้ว ตั้งอยู่ในธรรม ยินดีในความเป็นคนตรงและอ่อน
โยน ล่วงธรรมเป็นเครื่องข้องเสียได้ ละทุกข์ได้ทั้งหมด
ผู้นั้นเป็นนักปราชญ์ ไม่ติดอยู่ในธรรมที่เห็นแล้ว และฟังแล้ว ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสบอกความข้อนี้บ่อยๆ ด้วยประการ-
ฉะนี้ ติสสดาบสผู้ถึงฝั่งแห่งมนต์ได้ทราบความข้อนั้นแล้ว
พระผู้มีพระภาคผู้เป็นมุนี ทรงประกาศด้วยพระคาถาทั้ง
หลาย อันวิจิตรว่า บุคคลผู้ที่ไม่มีกลิ่นดิบ ผู้อันตัณหา
และทิฐิไม่อาศัยแล้ว ตามรู้ได้ยาก ติสสดาบสฟังบท
สุภาษิตซึ่งไม่มีกลิ่นดิบ อันเป็นเครื่องบรรเทาเสียซึ่งทุกข์
พระไตรปิฏก เล่มที่ ๒๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ หน้าที่  ๓๔๐-๓๔๑.

Không có nhận xét nào:

Đăng nhận xét